Q :
ข้อความที่ได้กรอกไปแล้ว จะถูกบันทึกเป็นข้อความฉบับร่างไว้หรือไม่
A :
ข้อความที่กรอกไว้จะถูกบันทึกเป็นข้อความฉบับร่าง สามารถกรอกข้อมูลให้ครบทุกขั้นตอนในภายหลังได้
Q :
จำเป็นต้องกรอกแบบฟอร์มและอัปโหลดไฟล์ข้อมูลทั้งหมด ให้เสร็จในครั้งเดียวหรือไม่
A :
ไม่จำเป็นค่ะ ท่านสามารถทยอยกรอกแบบฟอร์มและอัปโหลดไฟล์ข้อมูล โดยกดบันทึกฉบับร่างไว้แล้วกลับมากรอกให้เสร็จเรียบร้อยในภายหลัง
Q :
วันเดือนปีเกิด ต้องกรอกเป็นปี พ.ศ. หรือ ปี ค.ศ.
A :
ขอให้กรอกเป็นปี ค.ศ.
Q :
มีการกำหนดขนาดไฟล์ของรูปถ่ายหรือไม่
A :
ขอให้อัปโหลดขนาดของรูปถ่ายไม่เกิน 1 MB
Q :
มีการกำหนดลักษณะของรูปถ่ายหรือไม่
A :
กรุณาแนบรูปถ่าย ครึ่งตัว ไม่สวมหมวก หน้าตรง เห็นใบหน้าชัดเจน
Q :
หากไม่สามารถสแกนเอกสารได้ จะสามารถแนบไฟล์ข้อมูลที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนได้หรือไม่
A :
ถ้าถ่ายภาพใบรับรองต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน ก็สามารถใช้แทนการสแกนได้
Q :
การส่งใบสมัครสามารถทำได้แค่การกรอกบนเว็บไซต์ใช่หรือไม่
A :
สามารถส่งใบสมัครทางไปรษณีย์ได้ โดยกรอกเอกสารที่จำเป็นให้ครบถ้วนแล้วส่งมายังที่อยู่ของสำนักงานมูลนิธิ
Q :
หลังจากที่ส่งใบสมัครเรียบร้อยแล้ว หากต้องการแก้ไขข้อมูลที่กรอกไป จะทำได้อย่างไร
A :
กรุณาติดต่อสอบถามทางสำนักงานมูลนิธิโดยตรง แต่จะไม่รับแก้ไขข้อความในเรียงความ
Q :
กำหนดวันหมดอายุของใบรับรองผลสอบ JLPT หรือไม่
A :
ไม่มีการกำหนดใด ๆ กรุณาอัปโหลดไฟล์สำเนาใบรับรองผลสอบ JLPT ที่ท่านได้รับ
Q :
หากใบรับรองผลสอบ JLPT สูญหายหรือไม่มีอยู่ที่ตัวเอง จะต้องทำอย่างไร
A :
กรุณาดำเนินการขอใบรับรองผลสอบ JLPT ใหม่ทางเว็บไซต์ที่ให้ไว้ด้านล่าง ซึ่งในการออกใบรับรองผลสอบใหม่นั้นอาจใช้เวลาหลายวัน หากไม่ทันกำหนดการส่งใบสมัคร ขอให้ติดต่อสำนักงานมูลนิธิ และเมื่อได้รับใบรับรองแล้วให้ส่งใบรับรองผลสอบมายังสำนักงานมูลนิธิ https://www.jlpt.jp/sp/saihakkou.cgi
Q :
สามารถใช้ผลสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นที่นอกเหนือจาก JLPT แทนได้หรือไม่
A :
หากมีผลสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นที่นอกเหนือจาก JLPT แต่อยู่ในระดับเทียบเท่ากับ JLPT ระดับ N4 ท่านสามารถสมัครได้ โดยแนบใบรับรองผลสอบนั้นและติดต่อสำนักงานมูลนิธิ
Q :
หนังสืออนุญาตให้อาจารย์เข้าร่วมการฝึกอบรมจากผู้อำนวยการโรงเรียนต้นสังกัดสามารถให้รักษาการหรือตัวแทนของผู้อำนวยการสถานศึกษาเซ็นอนุญาตแทนได้หรือไม่
A :
ในกรณีที่ไม่สามารถให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาเซ็นอนุญาตได้จริง ๆ อนุญาตให้รักษาการหรือรองผู้อำนวยการสถานศึกษาเซ็นอนุญาตแทนได้
Q :
ในการสมัครผ่านระบบออนไลน์ สามารถใช้ลายเซ็นดิจิทัลหรือลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ได้หรือไม่
A :
ไม่ว่าจะเป็นการสมัครผ่านระบบออนไลน์ หรือสมัครโดยการยื่นเอกสารทางไปรษณีย์ ลายเซ็นของผู้อำนวยการจะต้องเป็นลายเซ็นที่เขียนด้วยลายมือเท่านั้น
Q :
สามารถเขียนเรียงความเป็นภาษาอังกฤษได้หรือไม่
A :
จะต้องส่งเรียงความทั้งภาษาไทยและภาษาญี่ปุ่น ส่วนที่สามารถกรอกเป็นภาษาอังกฤษได้นั้นให้ตรวจสอบในแต่ละหัวข้อของแบบฟอร์ม (กรรมการจะตัดสินจากเนื้อหาเรียงความภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก)
Q :
หลังจากที่ส่งใบสมัครแล้ว หากมีการย้ายโรงเรียน การส่งใบสมัครนั้นจะถือเป็นโมฆะหรือไม่
A :
จะไม่ถือเป็นโมฆะ แต่ขอให้แจ้งสำนักงานมูลนิธิ เนื่องจากต้องเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัคร
Q :
หากมีถิ่นพำนักในประเทศไทย แต่ว่าไม่ได้ถือสัญชาติไทย จะสามารถส่งใบสมัครได้หรือไม่
A :
เงื่อนไขในการสมัครมีเพียงว่า ต้องเป็นผู้ที่ไม่ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาแม่เท่านั้น หากท่านไม่สามารถกรอกข้อมูลเป็นภาษาไทยได้ กรุณาติดต่อสอบถามไปยังสำนักงานมูลนิธิ
Q :
หากทำงานเป็นครูอัตราจ้างในโรงเรียนรัฐบาลมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ยังไม่ได้ตำแหน่งข้าราชการครูระดับปฏิบัติการ (ค.ศ.1 / K1) จะสามารถสมัครได้หรือไม่
A :
หากมีคุณสมบัติด้านประสบการณ์การทำงานในฐานะครูและมีผลสอบ JLPT ครบถ้วน ขอให้ท่านสมัครเข้ามาก่อน และหากมีเหตุผลที่ท่านยังไม่ได้ตำแหน่งข้าราชการครูระดับปฏิบัติการ (ค.ศ.1 / K1) โปรดระบุให้ชัดเจน
Q :
เนื่องจากประเภทของสถานศึกษาไม่ได้เป็นทั้งโรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนเอกชน จึงไม่ทราบว่าตรงตามเงื่อนไขการรับสมัครหรือไม่ ในกรณีนี้ จะสามารถสมัครได้หรือไม่
A :
หากมีคุณสมบัติด้านประสบการณ์ทำงาน ผลงานในฐานะครูและมีผลสอบ JLPT ครบถ้วน ขอให้ท่านสมัครเข้ามาก่อน และหากมีเหตุผลที่ท่านยังไม่ได้ตำแหน่งข้าราชการครูระดับปฏิบัติการ (ค.ศ.1 / K1) โปรดระบุให้มาชัดเจน
Q :
หากเคยสอนอยู่ในโรงเรียนเอกชนมาเป็นระยะเวลา 5 ปี แต่หลังจากนั้นย้ายเข้ามาสอนอยู่ในโรงเรียนรัฐบาลเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ยังไม่มีตำแหน่งตำแหน่งข้าราชการครูระดับปฏิบัติการ (ค.ศ.1 / K1) จะสามารถสมัครได้หรือไม่
A :
กรณีที่ผู้สมัครมีประสบการณ์การทำงานในการเป็นครูทั้งในโรงเรียนรัฐบาลและเอกชน หากระยะเวลาการทำงานของท่านตรงตามเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่ง จะถือว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติในการสมัคร แต่หากในกรณีที่ผู้สมัครไม่ได้กำลังปฏิบัติหน้าที่สอนภาษาญี่ปุ่นในช่วงเวลาที่สมัคร จะถือว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัคร
Q :
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะสมัครโครงการ "ทุนอบรมครู ณ ประเทศญี่ปุ่น" อีกครั้ง สำหรับผู้ที่เคยเข้าร่วมแล้วในครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3
A :
สำหรับผู้ที่เคยเข้าร่วมทุนอบรมครั้งที่ 1 และ 2 ณ ประเทศญี่ปุ่น แล้วมีความประสงค์สมัครโครงการอีกครั้ง ทางมูลนิธิได้มีความเห็นว่าสามารถลงสมัครได้อีกครั้งในปี 2025 (ทุนอบรมครู ณ ประเทศญี่ปุ่น ครั้งที่ 5) และผู้ที่เคยเข้าร่วมทุนอบรมครั้งที่ 3 ณ ประเทศญี่ปุ่น แล้วมีความประสงค์สมัครโครงการอีกครั้ง ทางมูลนิธิได้มีความเห็นว่าสามารถลงสมัครได้อีกครั้งในปี 2026 (ทุนอบรมครู ณ ประเทศญี่ปุ่น ครั้งที่ 6)
ถ้าหากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้กับทางสำนักงาน
Q :
หากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ การอบรม ณ ประเทศญี่ปุ่นในเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 จะถูกยกเลิกหรือไม่
A :
ทางมูลนิธิฯวางแผนที่จะเลื่อนโครงการออกไปโดยไม่ยกเลิก ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาออกเอกสารรับรองคำเชิญให้แก่ทุกท่านที่ได้รับการคัดเลือก ในกรณีที่ต้องเลื่อนการอบรมออกไป