ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการนี้ต้องตรวจสอบเนื้อหานโยบายเกี่ยวกับการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปนี้ และให้ความยินยอมในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการสมัครเข้าร่วม (หน้าที่ 1 ของแบบฟอร์มใบสมัครมีช่องสำหรับทำเครื่องหมายเพื่อแสดงความยินยอม)
การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
มูลนิธิฯจะดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิฯเก็บรวบรวมและข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยที่มูลนิธิฯ ได้รับจากผู้ได้รับรางวัลหรือผู้ได้รับทุนหรือผู้ได้รับเชิญอย่างถูกต้องเหมาะสมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย (มีผลบังคับใช้ในเดือนพฤษภาคม 2565) (ต่อไปนี้เรียกว่า“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”)(ต่อไปนี้เรียกว่า“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มีนาคม 2564
มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มีนาคม 2564
หลักการพื้นฐานสำหรับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
มูลนิธิฯ ได้กำหนดหลักการพื้นฐานในการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล และจะปฏิบัติตามหลักการดังกล่าวในการดำเนินการนั้น ดังนี้
การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และกฎเกณฑ์อื่น ๆ
มูลนิธิฯ จะปฏิบัติตามกฎหมายกฎระเบียบสัญญาและระเบียบภายในของมูลนิธิฯ ตลอดจนกฎเกณฑ์อื่นๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
การได้มาและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลต่างๆ อย่างถูกต้องเหมาะสม
มูลนิธิฯจะดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากบุคคลต่างๆ ภายในขอบเขตของ “วัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล” ตามที่กำหนดไว้ด้านล่างนี้โดยจะต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้นสำหรับการดำเนินการดังกล่าวและจะดำเนินการโดยเป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
สำหรับโครงการ Japanese Language Program มูลนิธิฯอาจมีการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลโดยจะดำเนินการตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
【ทุนอบรมครู ณ ประเทศญี่ปุ่น】
ประเภทของข้อมูลที่ได้รับ | วัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูล | วิธีการได้มาซึ่งข้อมูล |
---|---|---|
ข้อมูลทั่วไป (ที่อยู่ ชื่อ เพศ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร อีเมล ระดับความสามารถภาษาญี่ปุ่น (ข้อมูลการสอบ JLPT) การประเมินความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นด้วยตนเอง ประวัติการศึกษา ประวัติการอยู่อาศัยในญี่ปุ่น ประวัติการเรียน/ฝึกอบรมภาษาญี่ปุ่น ประวัติการทำงาน รูปถ่ายหน้าตรง) |
|
ตอนสมัครเข้าร่วมโครงการ: รูปแบบเอกสารหรือข้อมูลดิจิตัลจากผู้สมัครหรือผู้แทนของโรงเรียนที่สังกัด (แบบฟอร์มใบสมัครเข้าร่วมโครงการที่มูลนิธิฯ เป็นผู้จัดทำ) |
แฟ้มสะสมผลงานที่ระบุประวัติการฝึกอบรม ฯลฯ |
|
ตอนสมัครเข้าร่วมโครงการ: เฉพาะผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบเอกสาร รูปแบบเอกสารหรือข้อมูลดิจิตัลจากผู้สมัคร |
ข้อมูลภาพ กลุ่ม เอ: วิดีทัศน์ห้องเรียน (วิดีทัศน์บันทึกการสอนในห้องเรียนที่จัดสอนโดยผู้สมัคร) |
|
ตอนสมัครเข้าร่วมโครงการ: เฉพาะผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบเอกสาร รูปแบบเอกสารหรือข้อมูลดิจิตัลจากผู้สมัคร |
ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการเดินทางและพักอาศัยในประเทศญี่ปุ่น (ข้อมูลหนังสือเดินทาง) |
|
ตอนยืนยันการเข้าร่วมโครงการ: รูปแบบเอกสารหรือข้อมูลดิจิตัลจากผู้สมัคร หรือจากการสอบถาม (กรอกแบบฟอร์มตรวจสุขภาพ และรายละเอียดต่างๆ ในแบบฟอร์มที่มูลนิธิฯเป็นผู้จัดทำ) |
ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการจัดการความปลอดภัย/สุขภาพ (ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ อาการแพ้สิ่งต่างๆ และข้อมูลการนับถือศาสนา) |
|
เมื่อมีการยืนยันว่าบุคคลนั้นได้เข้าร่วมในโครงการ โดยจะได้รับข้อมูลจากบุคคลนั้น ๆ ในรูปแบบข้อมูลเป็นลายลักษณ์อักษรหรือในรูปแบบข้อมูลอื่นที่จัดให้หรือจากการสัมภาษณ์ (โดยการกรอกแบบฟอร์มตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับสุขภาพในแบบฟอร์มและรูปแบบที่จัดเตรียมโดยมูลนิธิ) |
ข้อมูลภาพ กลุ่ม บี: (ภาพถ่ายและวิดีทัศน์ในการร่วมงานมอบรางวัลที่กรุงเทพฯ) |
|
งานมอบรางวัล: ข้อมูลในรูปแบบวีดีทัศน์ซึ่งบริษัทที่รับผิดชอบโครงการ บริษัทตัดต่อวีดีทัศน์ บริษัทที่ดูแล/ดำเนินการเกี่ยวกับงานอีเวนท์ หรือมูลนิธิฯเป็นผู้บันทึก |
กลุ่ม ซี: (ภาพถ่ายและวีดิทัศน์ในระหว่างการดำเนินโครงการ) |
|
ระหว่างเข้าร่วมโครงการอบรม: บริษัทบริหารธุรการ บริษัทตัดต่อวิดีทัศน์ บริษัทที่ดูแล/ดำเนินการเกี่ยวกับงานอีเวนท์ หรือมูลนิธิฯเป็นผู้บันทึกจากการถ่ายทำ |
กลุ่ม ดี: (วีดิทัศน์การสัมภาษณ์อาจารย์ในระหว่างการไปอบรมที่ญี่ปุ่น และวีดิทัศน์ในชั่วโมงเรียนภาคปฏิบัติจริงระหว่างการไปอบรมที่ญี่ปุ่น) |
|
ในขณะที่ดำเนินโครงการที่ประเทศญี่ปุ่น : สำนักงานมูลนิธิ, บริษัทตัดต่อวีดิทัศน์ หรือมูลนิธิฯเป็นผู้บันทึกการถ่ายทำโดยการสัมภาษณ์อาจารย์ที่เข้าร่วมงานนำเสนอผลงานจากที่ได้ปฏิบัติจริง การจัด forum : มูลนิธิฯเป็นผู้บันทึกข้อมูลจากการถ่ายทำ ในตอนที่รวบรวมกรณีศึกษา :สำนักงานมูลนิธิ, บริษัทตัดต่อวีดิทัศน์ หรือมูลนิธิฯเป็นผู้บันทึกข้อมูลจากการถ่ายทำ |
หากมูลนิธิฯได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอื่นนอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ข้างต้นมูลนิธิฯจะใช้ข้อมูลดังกล่าวต่อเมื่อมูลนิธิฯได้รับความยินยอมเป็นการเฉพาะแยกต่างหากจากบุคคลนั้นก่อนนอกจากนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลมูลนิธิฯ จะแจ้งให้บุคคลนั้นทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวและหากบุคคลนั้นไม่ให้ความยินยอมต่อการเปลี่ยนแปลงมูลนิธิฯจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่บุคคลนั้นได้ให้ความยินยอมไว้
การให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลอื่น
เพื่อดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลในข้อ “2. การได้มาและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลต่างๆ อย่างถูกต้องเหมาะสม” มูลนิธิฯ อาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการภายใน“ขอบเขตของงาน”ตามที่กำหนดด้านล่างนี้ทั้งนี้โดยที่หากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะต้องดำเนินการโดยว่าจ้างผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมูลนิธิฯ จะคัดเลือกผู้ให้บริการที่ให้คำยืนยันว่าจะบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลโดยวิธีการที่ปลอดภัยตามกฎระเบียบที่ใช้เป็นการภายในของตนและมูลนิธิฯจะเป็นผู้ดูแลในเรื่องดังกล่าวให้มีการดำเนินการอย่างถูกต้องเหมาะสมนอกจากนี้มูลนิธิฯจะไม่เปิดเผยหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอกโดยไม่ได้รับความยินยอมจากบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลนั้น เว้นแต่กฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้
การส่งหรือโอนข้อมูลไปยังประเทศที่สาม
มูลนิธิฯ จะส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลจากประเทศไทยไปยังประเทศญี่ปุ่น ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะมีการบริหารจัดการอย่างถูกต้องเหมาะสมตามนโยบายฉบับนี้นอกจากนี้ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลถูกส่งหรือโอนไปยังประเทศอื่นนอกประเทศไทยไปยังประเทศหรือภูมิภาคอื่นใดที่ไม่ใช่ประเทศญี่ปุ่น/ประเทศไทย โดยหลักการแล้วการส่งหรือโอนดังกล่าวจะดำเนินการโดยเป็นไปตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและข้อสัญญามาตรฐาน (Standard Contract Clauses (SCC))
ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์
มูลนิธิฯ จะไม่รับหรือดำเนินการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้เยาว์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองของผู้เยาว์ทั้งนี้หากพบว่ามีผู้เยาว์ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่มูลนิธิฯโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองของผู้เยาว์กรุณาติดต่อมูลนิธิฯโดยด่วน
ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษ
มูลนิธิฯ อาจได้รับมาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษ (เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนาสุขภาพอาการแพ้สิ่งต่างๆ เป็นต้น) ทั้งนี้ภายในขอบเขตตามวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลนั้นๆ และเมื่อได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวก่อนแล้วเท่านั้น
การให้ความรู้แก่ผู้บริหารและพนักงาน
มูลนิธิฯ จะส่งเสริมให้มีการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องเหมาะสมและโดยยึดตามกฎหมายและกฎระเบียบทั้งปวงอย่างเคร่งครัดโดยจะจัดให้มีการฝึกอบรมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้บริหารและพนักงานอยู่เป็นประจำเพื่อให้ความรู้แก่ผู้บริหารและพนักงานเกี่ยวกับความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลข้อกำหนดทางกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องระบบการบริหารจัดการและกฎระเบียบสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนบทลงโทษหากมีการฝ่าฝืนกฎระเบียบดังกล่าว
การจัดทำระบบการบริหารสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
มูลนิธิฯ จะกำหนดระบบการบริหารภายในและกำหนดหน้าที่รับผิดชอบและแต่งตั้งหัวหน้าผู้ดูแลในเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อดำเนินการให้มั่นใจได้ว่าจะมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อชี้แจงเรื่องการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
มูลนิธิฯ จะกำหนดกฎระเบียบเกี่ยวกับการเข้าดูการใช้การเก็บรักษาการแจกจ่ายและการส่งคืนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างมั่นคงปลอดภัยและถูกต้องเหมาะสมและจะปฏิบัติตามกฎระเบียบดังกล่าวภายใต้การดูแลของหัวหน้าผู้ดูแลในเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล
นอกจากนี้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้มาจะถูกลบหรือทำลายด้วยวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสมหลังจากครบกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาที่กฎหมายกำหนดหรือครบกำหนดการเก็บรักษาตามที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติงาน
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลโดยปราศจากอำนาจ
มูลนิธิฯ จะจัดทำระบบข้อมูล และระบบบริหารจัดการข้อมูลที่ถูกต้องเหมาะสม และมีมาตรการอื่น ๆ เพื่อป้องกันการลักขโมย การสูญหาย การเปลี่ยนแปลง หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลอันเนื่องมาจากการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจ
การกำหนดระบบตอบสนองที่ทันท่วงทีเพื่อแก้ปัญหา
มูลนิธิฯ จะจัดทำระบบที่จะสามารถตรวจหาปัญหาได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง กรณีเกิดปัญหาขึ้น และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
สิทธิของบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล
บุคคลมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่มูลนิธิฯมีไว้ ดังต่อไปนี้ (สิทธิตามมาตรา 30 ถึงมาตรา 34 แห่ง พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)
การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
มูลนิธิฯ มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงการดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยตรวจสอบการบริหารและโดยปรับปรุงการดำเนินการให้สอดคล้องกับปัจจัยต่าง ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายนอกบริษัท
ข้อมูลสำหรับติดต่อเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล
การติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล หรือการร้องขอเพื่อสอบถามยืนยัน แก้ไข หรือลบข้อมูลส่วนบุคคล หรือยื่นข้อร้องเรียน เป็นต้น กรุณาติดต่อมายังศูนย์ติดต่อสอบถามตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์จะทำการยืนยันตัวตน เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนในเรื่องที่ได้รับการติดต่อสอบถามต่อไป
มูลนิธิฮาคูโฮโด สำนักงานโครงการ Japanese Language Program
(โดยส่งถึง บริษัท โปรดักส์ (กรุงเทพฯ) จำกัด)
บริษัท โปรดักส์ (กรุงเทพฯ) จำกัด
333/13 ตึก UNITED TOWER ชั้น 7 ห้อง 7/1 ซอยสุขุมวิท 55
ถนนทองหล่อ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์ 06 1174 7233, 09 0894 1624
อีเมล: info@hakuhodo-jplang.org
https://www.hakuhodo-global.com/network/products-bangkok-co-ltd.html
Hakuhodo foundation ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ของเรา
หากคุณยังคงใช้งานบนเว็บไซต์ เราถือว่าคุณยอมรับ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
Hakuhodo foundation ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดี
ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ของเรา หากคุณยังคงใช้งานบนเว็บไซต์
เราถือว่าคุณยอมรับ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)